วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

โรคภูมิแพ้รักษาโดยวัคซีนภูมิแพ้ Desensitized Immunotherapy


การรักษาภูมิแพ้โดยวิธีการฉีดวัคซีนภูมิแพ้


จัดเป็นวิธีใหม่ล่าสุดที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าสามารถทำให้โรคภูมิแพ้หายขาดได้โดยไม่ต้องรับประทานยา

ข้อบ่งชี้ในการรักษา

1. ผู้ป่วยที่มีอาการคัดจมูก และหวัดเรื้อรัง จากภูมิแพ้อากาศ (SEASONAL/PERENIAL ALLERGIC RHINITIS)

2. ผู้ป่วยที่มีอาการหอบหืดจากภูมิแพ้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ (ALLERGIC ASTHMA)

ขั้นตอนการรักษา

1. ซักประวัติและตรวจร่างกายทางหู คอ จมูก และหลอดลม

2. ตรวจภูมิแพ้โดยที่สะกิดผิวหนัง (SKIN TEST) ทุกราย เพื่อให้ทราบว่าสารใดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ วิธีการตรวจ SKIN TEST โดยการสะกิดผิวหนัง - โดยการใช้สารชนิดต่างๆ ประมาณ 30-32 ชนิด - ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วแปลผลโดยดูจากปฏิกิริยาหรือผื่นที่ปรากฎ

3. หลังจากทราบว่าแพ้สารใดแล้วจะใช้สารที่แพ้ เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น ฯลฯ ฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนังเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโดยเริ่มฉีดจากขนาดน้อยๆในเข็มแรก

4. หลังจากนั้นจะต้องนัดมาฉีดวัคซีนในปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในระยะแรกจะนัด 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ จนถึงจุดที่ผู้ป่วยเริ่มมีภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยจะไม่มีอาการจึงจะเริ่มฉีดห่างขึ้นทุก 3-4 สัปดาห์ ในระยะแรก คือ 3-6 เดือนแรก อาจจะต้องใช้ยารับประทานและยาพ่นจมูก ยาพ่นหลอดลม ร่วมด้วยเพื่อควบคุมอาการ

5. โดยทั่วไปแพทย์มักจะฉีดในขนาดสมดุลทุก 4 สัปดาห์ต่ออีกประมาณ 2 ปี เป็นอย่างน้อย


ผลการรักษาโดยวิธีฉีดวัคซีน - 80% ได้ผลดีอาการน้อยลงจนหยุดยาได้ภายใน 6 – 12 เดือน - เป็นที่ยอมรับในการรักษาในปัจจุบันว่าผู้ป่วยที่รักษาด้วยวิธีนี้ภายในเวลา 5 ปี หลังจากหยุดฉีดยาพบว่ามากกว่า 60% สามารถควบคุมอาการได้ดี


ข้อเสีย

- ต้องอาศัยความร่วมมือของผู้ป่วยมาก

- ต้องใช้เวลาในการรักษานาน (ต้องฉีดวัคซีนภูมิแพ้ทุกๆเดือนต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 2 ปี)

- ต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและโดยความระมัดระวังข้อดี เปรียบเทียบกับการรักษาโดยใช้ยา

- ไม่มีผลข้างเคียงจากยา เช่น ง่วงนอน ใจสั่น ฯลฯ - ไม่ต้องรับประทานยาทุกวันเพื่อบควบคุมอาการ

- การรักษาโดยการใช้ยาเป็นการรักษาตามอาการ แต่การรักษาโดยฉีดวัคซีนภูมิแพ้เป็นการรักษาที่ต้นเหตุของโรคภูมิแพ้ ทำให้รักษาหายขาดได้

โรค MENIERE S DISEASE


โรค MENIERE S DISEASE(น้ำในหูไม่เท่ากัน) เป็นโรคของหูชั้นใน จึงมีผลต่อการทรงตัวและการได้ยิน มักจะแสดงอาการมึนหัว เสียงรบกวนในหูและหูอื้อแบบประสาทหูเสื่อม สาเหตุเกิดจากการเพิ่มปริมาณและความดันของENDOLYMPH(น้ำในหูชั้นใน)
อาการและอาการแสดง อาการของโรคนี้มีหลายแบบและต่างกันในแต่ละคน อย่างไรก็ตามแบบที่เรียกว่า CLASSIC MENIERE ต้องมีอาการดังต่อไปนี้ 4 อย่าง
1)เวียนศีรษะบ้านหมุนเป็นระยะ
2)การสูญเสียการได้ยินแบบขึ้นๆลงๆอาจเกิดในหู
ข้างเดียวหรือทั้ง2ข้าง
3)เสียงรบกวนในหู(TINNITUS)ด้านเดียวหรือทั้ง
สองด้าน
4)ความรู้สึกแน่นในหูหรืออึดอัดในหูด้านเดียวหรือ
ทั้งสองด้าน
อาการโดยรวมของโรคมักจะเริ่มจากอาการใดอาการหนึ่งข้างต้นและเป็นมากขึ้นเรื่อยๆอย่างช้าๆอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนสามารถเป็นรุนแรงและคาดเดาไม่ได้ อาจเป็นเวลาหลายชั่วโมงหรือเป็นต่อเนื่องกันหลายวัน และมักพบร่วมกับเสียงรบกวนในหู และอาจพบร่วมกับประสาทหูเสื่อมแบบชั่วขณะ นอกจากนั้นอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อแตก ซึ่งพบร่วมกับบ้านหมุนและอาจมีอาการวูบ(DROP ATTACK) และอาการสูญเสียการได้ยิน อาจเป็นลักษณะเสียงเพี้ยนเปลี่ยนไป และบางครั้งมีอาการเสียงก้องในหูไวต่อเสียงมากขึ้นและทนเสียงดังไม่ได้(HYPERACUSIS)และอาการข้างต้นอาจพบร่วมกับการติดเชื้อทางหูชั้นกลาง การกระทบกระเทือนที่ศีรษะ และอาการหวัด(URI)และการใช้ยาแอสไพริน การสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ และในบางรายพบร่วมกับการติดเชื้อไวรัสเริมงูสวัด
สาเหตุ
-ไม่ทราบแน่ชัดแต่เชื่อกันว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงความดันน้ำในหูชั้นใน(ENDOLYMPHATIC HYDROPS)
-พบร่วมกับการใช้ยาแอสไพริน บุหรี่ สุรา และการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบนและ หรือการติดเชื้อในหูชั้นกลาง และการติดเชื้อเริมงูสวัด
การวินิจฉัย
-จากประวัติและการตรวจร่างกาย
-การตรวจการได้ยิน AUDIOGRAM
-MRI เพื่อแยกโรคเนื้องอกของเส้นประสาทสมอง และโรคของหูชั้นในอื่น
ประวัติชัดเจนที่ชี้ว่าเป็นโรคนี้คือ มีอาการบ้านหมุนที่พบร่วมกับเสียงรบกวนในหูและประสาทหูเสื่อมและ หรือ มีอาการแน่นในหู ตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไปในช่วงชีวิต
การรักษา
-รักษาตามอาการและประคับประคอง
-ควบคุมอาหารเค็มและมัน งดชาและกาแฟ สุราและบุหรี่
-รักษาภูมิแพ้ในกรณีที่เป็นโรคภูมิแพ้ เพราะโรคภูมิแพ้เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการได้
-VITAMIN B6,และ BETAHISTINE
-ยาแก้แพ้(ANTIHISTAMINE)และสเตียรอยด์และยาขับปัสสาวะ(DIURETIC)ในบางรายเพื่อลดความดันในหูชั้นใน
-ยาต้านไวรัส มีรายงานว่าได้ผลในผู้ป่วยบางราย



ในกรณีที่รักษาด้วยยาไม่ได้ผลพิจารณา
-การฉีดยาเข้าไปในหูชั้นกลาง(CHEMICAL LABYRINTHECTOMY)เพื่อทำลายอุปกรณ์ควบคุมการทรงตัว และลดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน
-การผ่าตัดเพื่อระบายน้ำในหูชั้นใน(ENDOLYMPHATIC SAC DECOMPRESSION)
-การผ่าตัดเพื่อทำลายระบบหูชั้นใน(LABYRINTHECTOMY)


โรค MENIERE S DISEASE(น้ำในหูไม่เท่ากัน)



โดยนพ.ประสิทธิ์ เชาวกิจเจริญโทร. 074-342884, 074-342888
เชิญแวะชมและปรึกษาปัญหาได้ที่
prasitmd@prasitclinic.com